คนรักสุขภาพต้องเคยได้ยินชื่อ “โอเมก้า 3” กันมาบ้าง โอเมก้า 3 คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร กรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ กรดอัลฟ่าไลโนเลนิก (Alpha-Linolenic acid) มีอยู่ในน้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำมันรำข้าว น้ำมันปลา น้ำมันถั่วเหลือง โอเมก้า 3 จะทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายคนเราสามารถเปลี่ยนไปเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 อีก 2 ชนิดที่สำคัญ คือ อีพีเอ-EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ ดีเอชเอ-DHA (Docosahexaenoic Acid)
โอเมก้า 3 มีประโยชน์สำหรับคนทุกช่วงวัย โอเมก้า 3 และดีเอชเอ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองและจอประสาทตาของทารกในครรภ์มารดาและเด็กเล็กๆ ดังจะเห็นว่ามีการเติมโอเมก้า 3 และดีเอชเอ ในนมผงสำหรับเด็ก ส่วนในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ โอเมก้า 3 ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดการหดตัวของหลอดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ และยังกระตุ้นการสร้างสารเคมีซีโรโทนินในสมองช่วยต้านอาการซึมเศร้า
คนทั่วไปมักคิดว่าโอเมก้า 3 มีอยู่แต่ในปลาทะเลน้ำลึกของต่างประเทศเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงปลาน้ำจืดของไทยก็มีโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้ปลาทะเล แถมราคาถูกกว่าอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ปลาทู มีโอเมก้า 3 ถึง 1,636 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม (ดังตาราง) ในขณะที่ปลาแซลมอนมีโอเมก้า 3 ประมาณ 1,000-1,700 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ตารางแสดงปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาบางชนิด
ลำดับที่ |
ชนิดปลา |
ปริมาณโอเมก้า 3 (มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) |
1 |
ปลากระพงแดง |
459 |
2 |
ปลากระพงขาว |
360 |
3 |
ปลาจะละเม็ดขาว |
430 |
4 |
ปลาช่อน |
1,052 |
5 |
ปลาดาบเงิน |
516 |
6 |
ปลาดุกอุย |
258 |
7 |
ปลาทู |
1,636 |
8 |
ปลาน้ำดอกไม้ |
765 |
9 |
ปลาเนื้ออ่อน |
622 |
10 |
ปลาสวาย |
2,111 |
11 |
ปลาอินทรีย์ |
882 |
ที่มา: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนั้นปลายังเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ กินปลาแทนเนื้อสัตว์อื่นเป็นประจำ จึงช่วยลดไขมันในเลือด จะให้ดีต้องกินปลาไม่น้อยกว่า 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ การกินปลาอย่างสม่ำเสมอยังจะช่วยให้ได้รับโอเมก้า 3 เพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อน้ำมันปลามาทานเพิ่ม เพราะการได้รับน้ำมันปลาชนิดที่เป็นเม็ดเสริมมากเกินไป อาจเกิดปัญหาเลือดออกง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทานยาแอสไพรินอยู่ อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกในสมองได้
เห็นมั้ยคะว่ายังไง้ ยังไง ของที่มาจากธรรมชาติย่อมดีกว่า...